วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2555


แก๊งโจรขับฮอนด้าฟรีดบุกปล้นรถขนเงินกวาดเงินสด 15 ล้าน!



เวลา 17.40 น. วันที่ 17 ก.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า พ.ต.ต.พรนรินทร์ เปรื่องกระโทก พนักงานสอบสวน  สภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายปล้นรถขนเงินได้เงินสดไปหลายล้านบาท  หน้าห้างเทสโก้โลตัส สาขาบางปะอิน  ม.9 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา  

ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ตู้ขนเงินโตโยต้าสีขาว หมายเลขทะเบียน ปษ-4562 กทม. ของบริษัทกรุงเทพเซร์เว็กซ์ 7 

จอดอยู่หน้าห้างสรรพสินค้า ใกล้กันมีนายพงษ์พัฒน์ พวงพันธ์ อายุ 42 ปี หัวหน้าชุดขนเงิน ในมือถืออาวุธปืนขนาด .38 มม. จากการสอบสวนนายพงษ์พัฒน์ กล่าวว่า ตนพร้อมพนักงานขนเงินมารับเงินตามปกติที่ธนาคารกรุงเทพ ภายในห้างโลตัส จำนวน 2 ถุง ขณะที่กำลังขนถุงเงินไปขึ้นรถเห็นมีรถยนต์เก๋งฮอนด้าแบบแวนสีขาว เข้ามาจอดหลังรถขนเงิน แล้วคนที่นั่งมานั่งด้านข้างคนขับลงจากรถ สวมหมวกไหมพรม ชักอาวุธปืนออกมาจี้ตนกับเพื่อนที่แบกถุงเงินออกมา ให้นำถุงเงินวางลง ตนจึงวางถุงเงิน คนร้ายได้หยิบถุงเงินโยนใส่ในรถ ตนได้เดินอ้อมไปที่หน้ารถขนเงินแล้วชักอาวุธปืนที่พกอยู่ยิงใส่คนร้ายไป 4 นัดถูกที่กระจกรถด้านหน้า   และยิงใส่คนร้ายจนล้มน่าจะถูกอาวุธปืน  จากนั้นคนร้ายขึ้นรถหลบหนีไปโดยมีรถยนต์เก๋งฮอนด้าแจ๊ส สีขาวไม่ทราบหมาเลขทะเบียน ขับติดตามไป  ก่อนหน้านี้ได้ไปรับเงินจากธนาคารกรุงเทพ ใน จ.พระนครศรีอยุธยา จุดที่เกิดเหตุเป็นจุดที่ 7 แล้วจะนำเงินไปสำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพ

นายเมฆ ปะกัดตัง อายุ 31 ปี คนขับรถขนเงินกล่าวว่า เห็นคนร้ายเพียงคนเดียว แล้วใช้อาวุธปืนยิงใส่มาที่รถขนเงิน 1 นัด แต่ไม่ถูก ระหว่างเกิดเหตุตนเดินออกมาจากห้างยังไม่ทันมาถึงรถขนเงินไม่รู้ว่าคนร้ายมากี่คน

ต่อมาเวลา 19.30 น. รับแจ้งจากสายตรวจของสภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา 
ว่าพบรถยนต์ของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุจอดทิ้งอยู่ภายในถนนทางเข้าหมู่บ้าน หลังโรงเรียนอนุบาลบางปะอิน  ม.2 ต.คลองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นรถยนต์ฮอนด้าฟรีด สีขาวหมายเลขทะเบียน ศห-7325 กทม. มีรอยถูกยิงเข้าที่ฝากระโปรง 1 นัดกระจกหน้า 1 นัด หลังคา 1 นัด ส่องมองจากภายนอกพบถุงมือตกอยู่ในรถ
พล.ต.ต.อนุรักษ์ กล่าวว่า จาการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายมีรูปร่างสันทัดสูงประมาณ 170 ซม. อ้วน ในกล้องพบเห็นคนร้ายเพียงคนเดียวสวมเสื้อเกราะ

จากการตรวจสอบเงินสดที่คนร้ายได้ไปเป็นจำนวน 15.95 ล้านบาท   จึงได้วิทยุสั่งการแจ้งไปตามท้องที่ต่างๆ จนพบรถของคนร้ายอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด ของที่มาของรถยนต์คันดังกล่าว และให้พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาลายนิ้วมือแฝงอย่าละเอียด เชื่อว่าคนร้ายมีการทำงานเป็นทีมมีการเฝ้าติดตามรถขนเงิน ส่วนจะเป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยพยายามก่อเหตุชิงเงินจากบริษัท แซมโก้ ยังไม่สามารถระบุได้

วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555



"วรศักดิ์" รองผบช.น. โพสต์รายละเอียดคดีนางเอกสาว "ขวัญ อุษามณี" ด่าตำรวจนางเลิ้ง





วันที่ 23 ส.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานจราจร โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า 
จากกรณีมีผู้แจ้งเข้ามาเรื่อง ดาราสาวขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์ ใช้ช่องทางทางโซเชียลเน็ตเวิร์กโพสต์ข้อความลงในอินสตาแกรม kwanusa9 เป็นเวลา 2 วันติดกัน ต่อว่าการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจจราจรที่แยกเยาวราช ซึ่งต่อมาตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าเป็นที่แยกยมราชนั้น พบว่าคู่กรณีที่ คุณขวัญฯกล่าวถึง คือ ร.ต.อ.พีรรัฐ โยมา สว.จร.สน.นางเลิ้ง ซึ่งได้รายงานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมาให้รับทราบ เรามาฟังข้อเท็จจริงจากฝ่ายตำรวจจราจรคู่กรณีกันบ้างครับ

พล.ต.ต.วรศักดิ์ ระบุว่า เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2555 เวลาประมาณ 17.00.30น. 
ขณะที่ ร.ต.อ.พีรรัฐ โยมา สว.จร.สน.นางเลิ้ง กำลังอำนวยการจัดการจราจรให้กับประชาชนอยู่ที่แยกยมราช พบรถเบนซ์คันหนึ่งซึ่งขับอยู่ในช่องทางเดินรถช่องขวาสุดจากถนนพิษณุโลกมุ่งหน้ามาที่แยกยมราช โดยในช่วงดังกล่าวเป็นถนน 3 ช่องทาง ที่มีเส้นทึบห้ามเปลี่ยนช่องทางเดินรถโดยเด็ดขาดกำกับไว้อย่างชัดเจนทุกช่องทาง 
เมื่อรถเบนซ์ดังกล่าวได้ขับมาใกล้ถึงแยก

ได้เปิดไฟเลี้ยวและพยายามแทรกเข้าไปในช่องทางเดินรถช่องที่ 2 จนทำให้รถที่ตามรถเบนซ์มาในช่องทางที่ 3 ชะลอตัวหยุด และทำให้รถในช่องทางที่ 2 ที่รถเบนซ์พยายามจะแทรกเข้าไป ก็ชะลอตัวตามรถคันที่ไม่ยอมให้รถเบนซ์แทรก ซึ่งผู้ขับขี่รถเบนซ์ได้แหย่หน้ารถเข้าไปในช่องทางเดินรถช่องที่ 2 บ้างแล้ว ทำให้สภาพการจราจรติดขัด

เมื่อร.ต.อ.พีรรัฐฯเห็นดังนั้น ได้ทำสัญญาญมือแจ้งไปยังรถเบนซ์ไม่ให้เข้าไปแทรกรถชาวบ้าน แต่ให้ขับตรงมา

ปรากฏว่า รถเบนซ์คันดังกล่าวไม่ยอมปฏิบัติตามสัญญาณมือ และแทรกเข้าไปในช่องทางเดินรถช่องที่ 2 ได้ในที่สุด ร.ต.อ.พีรรัฐฯจึงเรียกรถเบนซ์นั้นให้หยุด เพื่อทำการจับกุมในข้อหา แซงรถในที่คับขันอันก่อให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด โดยคนขับรถเบนซ์เป็นสุภาพสตรีสาวสวย ซึ่งทราบในภาพหลังคือ น.ส.อุษามณี ได้เปิดกระจกออกมา และร.ต.อ.พีรรัฐได้ทำวันทยาหัตถ์แสดงความเคารพต่อผู้ขับขี่ ตามมารยาทที่ดี ที่พึงปฏิบัติต่อประชาชน กล่าวสวัสดี

น.ส.อุษามณีได้สอบถามว่า เค้าทำผิดข้อหาอะไร จะรีบไป ร.ต.อ.พีรรัฐได้แจ้งด้วยเสียงปกติว่า คุณเปลี่ยนช่องทางในเส้นทึบ

ทำให้เกิดปัญหารถติดครับ และขอตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่ โดย น.ส.อุษามณีฯบอกว่า"ไม่ได้เอาใบขับขี่มา ขับรถมากับผู้ปกครอง จะรีบไป ไม่ได้ตั้งใจทำผิด ขอได้ไหม" ร.ต.อ.พีรรัฐฯได้ถามยืนยันขอตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่ และถามย้ำว่าไม่ได้เอามา หรือไม่มี น.ส.อุษามณีฯได้บอกซ้ำอีกว่า"มีใบขับขี่ แต่ไม่ได้เอามา ขับรถมากับผู้ปกครอง จะรีบไป ขอได้ไหม" ร.ต.อ.พีรรัฐฯแจ้งว่า ไม่ได้ครับ ต้องปฏิบัติเหมือนกันหมด รถคันหน้าก็โดนจับอยู่ เดี๋ยวรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเขียนใบสั่งนะครับ และร.ต.อ.พีรรัฐก็ได้เดินออกไปจัดการจราจรโบกรถต่อไป โดยไม่มีการตะคอกหรือแสดงอาการตามที่ น.ส.อุษามณีโพสต์ลงแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปเขียนใบสั่งให้รถของ น.ส.อุษามณีฯได้เดินเข้าไปและวิทยุมาสอบถามว่า ผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ให้ดำเนินการอย่างไร ร.ต.อ.พีรรัฐฯได้แจ้งให้ออกใบสั่งลอยไป โดยขอดูชือและเลข 13 หลักตามบัตรประชาชนและให้รีบกลับมาโบกรถต่อ

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ออกใบสั่งได้เดินเข้ามาแจ้งกับ ร.ต.อ.พีรรัฐฯว่า ผู้ขับขี่ไม่ยอมให้ดูบัตรประชาชน

แต่บอกว่าจำเลข 13 หลักได้และบอกให้ทราบ และได้ลงรายละเอียดในใบสั่งไว้เรียบร้อย ซึ่งหลังจากนั้น ร.ต.อ.พีรรัฐฯก็จัดการจราจรต่อไป โดยไม่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น จนมาทราบข่าวจากสื่อสารมวลชนว่า น.ส.อุษามณีได้ลงข้อความในอินสตราแกรม ต่อว่าการทำงานของ ร.ต.อ.พีรรัฐ จึงได้ทำรายงานพร้อมหลักฐานเสนอต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น เพื่อชี้แจงการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งไม่ตรงกับข้อความที่ น.ส.อุษามณีฯโพสต์ลงแต่อย่างใด ...............

ก็ให้คู่กรณีฯที่เป็นตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่เข้ามาชี้แจงแล้วนะครับ เรื่องนี้ยังยาว ขอให้ติดตามตอนต่อไปครับ 

วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555





จากกรณีคุณหมอหนุ่มจากโรงพยาบาลในจ.ตาก ถูกสาวมอมยา ทายาสลบไว้ที่หน้าอกก่อนเชิดรถยนต์หลบหนี
แต่ตามรถคืนมาได้แล้วนั้น ความคืบหน้าเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 22 ส.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า พ.ต.อ.กิตติสันธุ์ คงทวีพันธ์ ผกก สภ.ช้างเผือกเชียงใหม่  เผยว่า ตอนนี้พนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก ได้ไปขอหมายจับกุม "น้องแต้ม" น.ส.กฤตยา จอมนพคุณ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86/2 หมู่ 4 ต.เขาวัว อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี หมายจับเลขที่810/2555 ลงวันที่ 22 สค 55 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์  

 และจากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาทราบว่า ได้ไปก่อคดีในลักษณะเดียวกันนี้ หลายแห่ง และถูกออกหมายจับ ในท้องที่ จ.ตาก จ.จันทบุรี และ ที่กรุงเทพฯ
ตอนนี้ตนได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งติดตามตัวคนร้ายและให้นำรูปภาพของคนร้ายคือ น้องแต้ม แจกจ่ายไปทั่วหอพักต่างๆ และสถานบันเทิงในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ติดประกาศตามหาตัวและให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังกลุ่มพวกมิจฉาชีพพวกนี้  โดยคนร้ายมักจะหาเหยื่อที่เป็นข้าราชการ หรือเป็นบุคคลลูกหลานคนดัง ที่ไม่กล้าที่จะแจ้งความ โดยจะทำตีเข้าไปตีสนิท ในย่านสถานบันเทิง และสอบถามข้อมูล จนแน่ชัดจากนั้นก็จะชักชวนไปร่วมหลับนอนและลงมือดังกล่าว

 และจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่สถานบันเทิงชื่อดังในท้องที่ ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่
พบว่า ผู้ต้องหาได้ออกจากสถานบันเทิงมากับเหยื่อ และจากภาพกล้องวงจรปิดที่หอพัก พบว่า ตอนเดินมายังห้องพัก คุณหมอได้เดินนำหน้าโดยมีผู้ต้องหาตาม หลังจากนั้นประมาณ 15 นาที ก็พบว่า ผู้ต้องหาเดินออกมาจากห้องเพียงคนเดียว  ซึ่งภาพวงจรปิดถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่นำไปสู่การขอหมายจับ อย่างไรก็ตามทางตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อขอออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 คน ซึ่งเป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน โดยทั้งสองเป็นเพื่อนกับผู้ต้องหาและรับฝากรถยนต์ของกลางไว้ ก็ถือว่าร่วมกันลักทรัพย์ด้วย 

 ด้าน นายวิชัย ไชยมงคล ผอ.ปปส.ภาค 5 เผยว่า ในส่วนเรื่องการใช้ยาสลบทาตามอวัยวะทำให้เหยื่อสลบนั้น 
จากแนวทางการสืบสวนหาข่าวพบว่ากำลังเป็นที่นิยมใช้ในหมู่มิจฉาชีพ และทาง ปปส.ภาค 5 กำลังตรวจสอบให้แน่ชัด ในเรื่องนี้ เพราะกระแสสังคมได้พูดถึงวิธีการใช้ยาสลบหรือยาที่ทำให้หลับ อย่างกว้างขวาง เท่าที่ทราบทาง ปปส.ภาค 5 ทราบมาว่า ตอนนี้มียา เรียกว่าตัวยา "เสียสาว" หากใช้กับผู้หญิง และหากใช้กับผู้ชายเรียกว่า ยาเสียสร้อยหรือเสียทรัพย์สิน ผลิตจากเมืองจีน ซึ่งถือว่าเป็นยาเสพติดประเภทหนึ่ง กำลังถูกนำมาใช้ในสถานบันเทิง ในขณะนี้ ทางตำรวจและ ปปส.ภาค 5 กำลังกวาดล้างยาประเภทนี้อยู่ หากผู้ใดครอบครอง ก็ถือว่าผิดกฏหมาย เรื่องการครอบครองยาเสพติด ยาประเภทนี้ผลิตมาจากจีน และนำเข้ามาแถวย่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย

วันเสาร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555




2 หนุ่มซิ่งแหกด่าน ชนดาบตำรวจอาการโคม่า


ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหาข่าว


(11 ส.ค.) เมื่อเวลา 03.00 น. พ.ต.ท.สมพร อินเหลาพนักงานสอบสวน (สบ3) สน.ทุ่งครุ รับแจ้งเกิดเหตุรถจักรยานยนต์ชนตำรวจได้บาดเจ็บ ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ตั้งด่านตรวจ เหตุเกิดบริเวณหน้าห้างจัสโก้ ตรงข้ามซอยประชาอุทิศ 58 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส มีบาดแผลบริเวณใบหน้า และศีรษะ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน ต่อมาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจ ทราบชื่อต่อมา คือ ด.ต.อรพงษ์ คำมณี อายุ 38 ปี ผบ.หมู่งานปราบปราม
จากการสอบถามทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งครุ พร้อมกำลังอาสาสมัคร กว่า 10 นาย กำลังปฏิบัติหน้าที่ ตั้งด่านตรวจค้นโดยมีสัญญาณไฟแจ้งเตือน เพื่อรักษาความปลอดภัยในยามค่ำคืนตามปกติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ที่บริเวณหน้าห้างจัสโก้ ถนนประชาอุทิศ
ขณะที่ ด.ต.อรพงษ์ ได้เรียกตรวจค้นรถตามปกติ ระหว่างนั้นมี 2 วัยรุ่น ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนกันมา ได้เร่งเครื่องและมีเจตนาพุ่งชน ด.ต.อรพงษ์ อย่างจัง จนทำให้ ด.ต.อรพงษ์ ล้มลง ส่วนผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ถูกนำส่งโรงพยาบาลบางปะกอก 9 ส่วนคนซ้อนท้าย ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวไว้ได้ จึงได้อายัดตัวไว้ เบื้องต้นพบว่าทั้ง 2 คน มีอาการมึนเมาสุรา และจะได้ส่งตรวจหาสารเสพติดอีกครั้ง แต่เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใ

วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2555



ทหารอากาศเครียดจัด ยิงตัวตายคารถ

นายทหารอากาศ อาจารย์โรงเรียนนักเรียนนายเรืออากาศ คิดสั้นชักปืนจ่อยิงขมับดับสยองคารถเก๋ง คาดเครียดเพื่อนรุ่นเดียวกันเลื่อนยศหมดแล้ว
(7 ส.ค.) วานนี้ (6 ส.ค.) ตำรวจ สน.สายไหม รับแจ้งเหตุชายใช้ปืนยิงตัวเองเสียชีวิต ภายในซอยช่องท่าดินแดง 2 พื้นที่กองทัพอากาศ ย่านสายไหม จึงรุดไปตรวจสอบ บริเวณถนนใกล้กับบ้านพักนายทหารอากาศและแฟลตท่าดินแดง พบศพ น.ท.สรรคม ยมศรีแคน อายุ 44 ปี ครูฝึกประจำโรงเรียนนายเรืออากาศ สภาพศพสวมชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกงสีกรมท่า มือขวากำปืนขนาด 9 มม. ไว้ ที่ขมับขวามีรอยถูกยิงกระสุนทะลุขมับซ้าย นอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถเก๋งโตโยต้า รุ่นโคโรลล่า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ภท 2267 กรุงเทพฯ
สอบสวนทราบว่าผู้ตายเป็นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่น 28 เป็นอาจารย์ประจำโรงเรียนนายเรืออากาศ สอนวิชาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ส่วนสาเหตุที่ผู้ตายตัดสินใจฆ่าตัวตาย คาดว่า เกิดจากหน้าที่การงาน เนื่องจากเพื่อนรุ่นเดียวกัน ติดยศ น.อ. หมดแล้ว เหลือแต่เพียงผู้ตาย ส่วนอีกเรื่อง น่าจะเป็นเรื่องครอบครัว
อย่างไรก็ตามเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตรวจสอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้ จึงคาดว่าผู้ตายน่าจะใช้อาวุธปืนยิงตัวเอง ส่วนสาเหตุต้องรอสอบปากคำญาติผู้เกี่ยวข้อง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2555


เยาวชนไทยอ่อนภาษาอังกฤษกว่ากัมพูชา


เยาวชนไทยอ่อนภาษาอังกฤษติดอันดับ 42 ของโลก จากทั้งหมด 44 ประเทศ ทั้งนี้เลขาธิการสภาการศึกษา เร่งส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศของกลุ่มประเทศอาเซียน 10 ประเทศและประเทศบวกสาม เพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558

อีก 3 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน การเตรียมความพร้อมทางด้านภาษาต่างประเทศ เพื่อใช้ในการสื่อสารกันในภูมิภาคถือเป็นสิ่งสำคัญ ากการสำรวจของโรงเรียนสอนภาษาระดับโลก เอดูเคชันเฟิสต์ หรือ อีเอฟ (EF) ระบุว่า เยาวชนไทยอ่อนภาษาอังกฤษติดอันดับ 42 ของโลก จากทั้งหมด 44 อันดับ รองจากกัมพูชาที่อยู่ในอันดับที่ 41 เวียดนามลำดับที่ 39 อินโดนีเซียลำดับที่ 34 และมาเลเซียอยู่ลำดับที่ 9 ผลการสำรวจนี้ แสดงให้เห็นชัดว่าทักษะภาษาอังกฤษของเยาวชนไทยนั้นยังไม่สามารถสู้กับประเทศอื่นๆได้

เลขาธิการสภาการศึกษา ระบุว่า ประเทศไทยไม่มียุทธศาสตร์และเป้าหมายในการเรียนภาษาต่างประเทศอย่างเป็นระบบ โดยผู้เรียนไม่ทราบว่าเรียนไปเพื่ออะไร ทำให้ต้องมีการปฏิรูปเชิงโครงสร้างอย่างเร่งด่วนและในวงการศึกษาไทยขณะนี้มีเวลาไม่มาก สำหรับการปรับเปลี่ยนเพื่อพัฒนาการศึกษาที่มีคุณภาพสู่ระดับสากล เพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่ภาษาอังกฤษหรือภาษาต่างประเทศนั้นมีความสำคัญมาก

นอกจากนี้เมื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแล้ว การติดต่อในระบบงานราชการ จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง โดยการทำหนังสือราชการติดต่อนั้น ควรมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษด้วย 

และอีก 20 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะต้องเรียนรู้ได้อย่างน้อย 3 ภาษา นั่นคือ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน และที่เพิ่มมานั้นคือภาษาประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อการติดต่อสื่อสารทางด้านเศรษฐกิจ ทั้งนี้ประเทศไทยมียุทธศาสตร์ทางด้านเศรษฐกิจแล้ว แต่ยังขาดยุทธศาสตร์ทางด้านการศึกษา ซึ่งเลขาธิการสภาการศึกษา ระบุว่า โดยการศึกษาต้องนำไปเสริมทางด้านเศรษฐกิจด้วย ซึ่งหลายหน่วยงานต้องเร่งปลุกระดมให้มีการเรียนรู้ภาษามากขึ้น เพื่อเป็นผลพลอยได้ให้ประเทศไทยมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นด้วย

วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2555

น้ำกับผิวของเรา


คนเรานั้นไม่สามารถถอดได้ทนกว่าอดอาหาร  น้ำจึงมีความสำคัญรองจากอากาศเลยทีเดียว  หากขาดน้ำหลายวันผิวพรรณจะซูบซีดไม่มีเรี่ยวแรงอย่างรวดเร็ว
                น้ำ  เป็นปัจจัยสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตทุกชีวิตเลยทีเดียวเพราะนั้นจะเข้าไปช่วยหล่อเลี้ยงอวัยวะส่วนต่างๆ  ของร่างกายให้อย่างคล่องตัวทำให้ร่างกายสดชื่น  ชุ่มฉ่ำ  โลหิตไหลเวียนดีร่างกายเราจะมีการเรียกร้องโดยอัตโนมัตื  เมื่อต้องกานน้ำ  หรือกำลังขาดน้ำ
                นอกจากน้ำจะช่วยให้ทุกส่วนทำงานได้สอดคล้องกันดีแล้วยังช่วยควบคุมอุณหภูมิของรางกายให้คงที่  ฉะนั้นคนเราจึงควรได้รับน้ำในปริมาณเพียงพอทุกวัน
                บางคนอาจเคยได้ยิน  คนพูกว่าให้ดื่มน้ำมากเพราะว่าการดื่มน้ำมากเท่าไรก็ไม่มีโทษ  แต่น้ำนั้นต้องบริสุทธิ์  สะอาด  ผ่านการฆ่าเชื่อโรคมาแล้ว
                น้ำดื่มที่บริสุทธิ์สะอาด  ช่วยสร้างความชุ่มฉ่ำให้กับร่างกายรวมทั้งผิวพรรณของคุณก็สดใส  เปล่งปลั่ง  ยิ่งดื่มน้ำมากเท่าไหร่  น้ำก็ช่วยขับของเสียออกได้มากขึ้น  ของเสียที่ถูกขับจะออทางรูขุมขน  ที่เราเรียกว่าเหงื่อ  ขับออกมาทางปัสสาวะ